เพื่อนๆที่มีสวนยางช่วยแสดงความคิดเห็นหน่อยครับ

17/2/54
พ่อตาผมแนะนำให้ซื้อสวนยางที่ชุมพรไว้ เค้าบอกว่าสวน 25 ไร่จะได้รายได้ประมาณ 3000 บาทต่อวัน(หักลบจากค่าจ้างตัดยางแล้ว 65:35) เดือนนึงตัดได้ประมาณ 20 วัน และปีๆนึงจะตัดยางไม่ได้ประมาณ 2 เดือน ซึ่งผมหรือพ่อตาคงจะเป็นคนลงไปคุมสวนเอง(แต่จ้างเค้าตัด)

ผมมาคำนวนดูรายได้ต่อปีจะประมาณ 600,000 บาท

1. อยากทราบว่าข้อมูลที่ผมได้รับมาเท็จจริงเป็นอย่างไรครับ อยากลงทุนกับตรงนี้ อาจจะซื้อแปลง ภบท.5 ซึ่งราคาคงไม่สูงมากนัก แต่กลัวว่าแกจะเมกให้มันดูน่าลงทุนมากกว่าความเป็นจริงรึเปล่า ?

2. ในอนาคตราคายางมีโอกาสที่จะลงมากๆมั๊ยครับ ?




3. ถ้าเปลี่ยนแนวไปหาที่เปล่าปลูกเองที่ภาคอื่นๆในกรณีที่สู้ราคาที่ชุมพรไม่ไหว ในอนาคตอีก 6-7 ปียังจะเป็นอะไรที่น่าลงทุนอยู่รึเปล่า ?




ตอนนี้กำลังพยายามรวบรวมข้อมูลทั้งหมดก่อนตัดสินใจอยู่ครับ

พี่ๆเพื่อนๆช่วยแนะนำผมทีนะครับ




จากคุณ : bouillabaisse

เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 53 15:11:03

-------------------------------------------------------





หน้าแล้งช่วงยางผลัดใบ กรีดไม่ได้ประมาณ 2-3 เดือน ช่วงกลางเดือน ก.พ. - สิ้นเดือน เม.ย จะเริ่มกรีดยางได้อีกครั้งก็เริ่มเข้าหน้าฝนประมาณเดือน พ.ค. ก่อนกรีดก็ต้อง จ้างตัดหญ้า ใส่ปุ๋ย (เจ้าของสวนจ่าย)




ช่วงที่กรีดยางได้ หากวันไหนฝนตกก็ต้องหยุดกรีด หรือกลางคืนฝนตกหนัก วันรุ่งขึ้นต้นยางเปียกก็กรีดไม่ได้เช่นกัน และการกรีดยางก็ไม่สามารถกรีดได้ทุกวัน ต้องเว้นให้ต้นยางได้พักด้วย (ประมาณ 2-3 วัน หยุด 1 วัน)




หากกรีดทุกวัน โดยไม่พักต้นยางจะเป็นโรคเปลือกแห้ง ซึ่งจะทำให้กรีดแล้วได้น้ำยางน้อยลงเรื่อยๆ

ดังนั้น ส่วนใหญ่ 1 สัปดาห์จะกรีดยางได้จริงโดยเฉลี่ย 15-16 วัน




และปัญหาใหญ่ที่สำคัญอีกอย่าง หากคุณไม่ได้ดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนใหญ่มักจะมีปัญหาเรื่องความซื่อสัตย์ในการทำงานของคนกรีดยาง ไม่ว่าจะเป็นการหยุดงาน แอบขโมยน้ำยาง เป็นต้น จนทำให้เจ็บใจ ขายสวนไปหลายรายแล้ว




เพราะว่า เจ้าของสวนยาง ต้องลงทุนที่ดิน ปลูกยาง ใส่ปุ๋ย กว่าจะโตจนกรีดได้ ก็ใช้เงินไม่น้อย

ส่วนคนกรีด ลงทุนแค่อุปกรณ์ในการกรีดเท่านั้น




แล้วดูผลประโยชน์ที่ได้รับคือ 60(เจ้าของ) : 40(คนกรีด) สำหรับสวนขนาดใหญ่

ส่วนสวนขนาดกลาง-เล็ก จะเป็น 50:50

ซึ่งหากได้รับไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยอีก ก็น่าเจ็บใจ เหมือนกัน





-------------------------------------------------------





25 ไร่ เต็มที่ก็วันละ 40 กรัม ต่อ วัน(ยางโตเต็มที่) ในหนึ่งปี กรีดได้ไม่เกิน 200 วัน

การดูแลรักษา

ยางเล็ก ใส่ปุ๋ยปีละ 3 - 4 ครั้ง การกำจัดวัชพืช เดือนละ 1 - 2 ครั้ง

ยางโต ปุ๋ยปีละ 2-3 ครั้ง วัชพืชประมาณเดือนละครั้ง

ยารักษาหน้ายาง เดืนละ 2-3 ครั้ง

รายได้หารสองแบ่งกับลูกจ้าง (เศษยางลูกจ้างรับไป)

รายจ่ายเจ้าของสวนออกเอง (ถ้าลูกจ้างมีน้ำใจ การกำจัดวัชพืช ลูกจ้างจัดการให้)




สรุปในหนึ่งปีนะครับ

50% ลูกจ้างรับไป

30% เป็นค่าดูแลบำรุงรักษาสวนยาง

20% รายได้สุทธิของเจ้าของสวน

คิดเล่นๆนะครับ วันละ 40 กิโลกรัม ราคาตอนนี้ กก ละ 104 บาท ปีนึงกรีดได้200 วัน

เป็นเงิน 832000 บาทต่อปี

ลูกจ้างรับไป 416000 บาท

ค่าดูแลบำรุงรักษาสวนยาง 249600 บาท

เหลือรายได้ของเจ้าของสวน 166400 บาท

ย้ำ จะได้ขนาดนี้ราคายางพาราต้องได้ 104 บาทต่อกิโลกรัมตลอดทั้งปีนะครับ




จากคุณ : ลูกตาขุน

เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 53 05:39:15





-------------------------------------------------------





สามีมีสวนยางอยู่ประมาณร้อยไร่ค่ะ สัดส่วนที่ตกลงแบ่งกันกับคนกรีดยางคือ 6:4 ค่ะ คุณแม่สามีต้องคอยดูแลใกล้ชิดอยู่เหมือนกัน เพราะปัญหาเรื่องความซื่อสัตย์ของคนกรีดยางนี่แหละค่ะ คุณต้องทำใจว่าถ้าไม่ได้ดูแลเองใกล้ชิดมาก ๆ จริง ๆ เนี่ย โดนแอบยักยอกกรีด ขโมยน้ำยางแน่ ๆ ค่ะ ส่วนขี้ยาง คนตัดก็มักจะเอาไปอยู่แล้ว




ส่วนรายได้จาก 25 ไร่ ประมาณปีละ 6 แสนนี่คิดว่าเป็นประมาณการที่ over มากกว่าความเป็นจริงนะคะ อันนี้เทียบสัดส่วนกับรายได้ของสามีจากสวนยางร้อยไร่นะคะ




อย่าลืมว่ายางมันก็กรีดได้ไม่แน่ไม่นอนค่ะ ถ้าช่วงฝนตกมากก็กรีดไม่ได้ ราคายางก็ผันผวนค่ะ ช่วงนี้ราคายางขึ้น ก็ได้เงินเยอะ แต่มันเป็นวัฏจักร มีช่วงตกต่ำเหมือนกัน




ข้อดีของการลงทุนสวนยางดีตรงที่เราเป็นเจ้าของที่ดินด้วย ไม้ยางถ้ากรีดไม่ได้แล้วก็ตัดขายได้ด้วยค่ะ ที่ก็ขายต่อได้ราคาเหมือนกัน แต่ต้องไม่เก็งกำไรระยะสั้น




จากคุณ : หวานใจกัปตัน

เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 53 09:05:26





-------------------------------------------------------





ตอบแบบผู้ทำสวนยาง




จุดที่ต้องระวัง คือต้องคำนวณคนให้เพียงพอต่อจำนวนต้นยางครับ




เพื่อจะได้ให้สามารถกรีดยางได้ทุกต้น ทุกวัน ในช่วงที่มีน้ำยางออก




บางสวนคนน้อยไป ทำให้ต้องกรีด 10 ไร่สลับกัน ได้น้ำยางไม่เต็มที่




สมมติมี 20 ไร่ จ้างคน 2 ชุด แยกเครื่องมืออุปกรณ์เลยครับ




ให้ไปกลุ่มละ 10 ไร่ เพื่อเราจะได้เทียบประสิทธิภาพการทำงานด้วย




และแน่ใจได้ว่ายางทุกต้นได้กรีด




ผมใช้วิธีนี้จากเดิมที่พ่อผมทำและจ้างคนงานกลุ่มอื่น




ปรากฎว่าได้เงินมากขึ้นเกือบ 30 %




จากคุณ : กัดจัง

เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 53 09:28:28





-------------------------------------------------------





ความเห็นที่ 6 ให้ไว้ใกล้เคียงกับความจริงที่สุดครับ





ยางไร่หนึ่งปลูกได้ราวๆ 60 กว่าต้นใ้ห้ผลผลิต ประมาณ 1.5 - 2.0 Kg

นับสำเร็จรูปเป็นยางแผ่นตากแห้งแล้วนะครับ

ตีว่า 25 ไร่ ก็ได้ราวๆ 40-45 กิโลตามนั้นแหล่ะครับ


สวนในภาคใต้จะแ่บ่ง 6 : 4 เป็นส่วนมาก ที่บ้านก็แบ่ง 6 : 4

ค่าปุ๋ย ค่าถากถางวัชพืช อุปกรณ์และเคมีภัณฑ์ทุกอย่าง เจ้าของออกเอง


ปุ๋ยปีละครั้งหรือสองครั้ง สำหรับยางที่โตแล้ว

แต่วัชพืช ไม่ต้องถางถึงขนาดเดือนละครั้ง ก็ได้ ปกติสวนมันครึ้มหญ้าไม่ค่อยขึ้นอยู่แล้ว


วัดรายได้อย่างเดียว ไม่คิดรายจ่ายนะครับ

เดือนหนึ่งตัดได้ 20 วัน ปีหนึ่ง ได้ 200 วัน (มากที่สุดแล้ว)

40 X 200 = 8000 กิโล เป็นเงิน ประมาณ 800000 บาท ตีกิโลละร้อยนะครับ

แบ่งให้เจ้าของได้ 480000 ครับ ค่าดูแลรักษาผมคิดว่าไม่ถึง 30 % หรอก อย่างมาก

ก็ 20 % ครับ ไม่ต้องเติมให้เต็มๆก็ได้ ยางมันก็อยู่ได้โดยธรรมชาติอยู่แล้ว


เท่าที่คำนวณ 25 ไร่นี่เพียงพอสำหรับครอบครัวเล็กๆ ครับ แต่สำหรับการลงทุนไม่ค่อยคุ้มค่า

เสียเวลาเท่าไหร่ คือคุณทำ 25 ไร่ กับ 100 ไร่ มันก็จ่ายเพิ่มขึ้นไม่มากนักในแง่ของการดูแล

และเวลาที่เสียไปครับ แต่รายได้มันเพิ่มแบบตัวคูณครับ




จากคุณ : ดาวสุริยะ

เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 53 09:32:43





------------------------------------------------------





ข้อเสีย





ถ้าไม่สามารถไปควบคุมดูแลเองได้มักจะโดนคนกรีดยางโกง รั่วไหลได้ง่าย แถวบ้านผมเดี๋ยวนี้เถ้าแก่สวนยางเค้าหันไปปลูกปาล์มกันเยอะเพราะรั่วไหลน้อยกว่า ควมคุมดูแลได้ง่าย ส่วนใหญ่ที่ยังปลูกยางอยู่มักทำกันในครอบครัว มีลูกจ้างแต่เจ้าของสวนต้องดูแลทุกๆวัน





ข้อดี





ไม้ยางราคาดีมาก ตกประมาณ200,000บาท/ไร่ บางคนที่ไม่มีเวลาดูแลก็ปลูกเพื่อขายไม้ยางอย่างเดียวก็มี โดยปลูกทิ้งไว้ประมาณ15-20ปี อันนี้ต้องรอผู้ที่ทำอยู่เข้ามาตอบ

ส่วนตัวผมเองไม่ถนัดทำสวน ไม่เอาทั้งสวนยางและสวนปาล์ม

มีที่ดินเปล่าแต่อยู่คนละจังหวัดไม่มีเวลาดูแลปล่อยทิ้งไว้เฉยๆมา10กว่าปีแล้ว ส่วนใหญ่เอาเงินมาลงทุนในหุ้นเพราะได้ผลตอบแทนมากกว่าทำสวนและดูแลได้เองไม่ต้องจ้างลูกน้องครับ




จากคุณ : jek ae

เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 53 09:36:50





------------------------------------------------------





เห็นด้วยกับข้อมูล คห.ที่ 14 ครับ ขอเพิ่มเติมข้อมูลว่าถ้าเป็นภาคอื่น ๆ ผลผลิตจะได้น้อยกว่านี้ ส่วนราคาไม้ยางที่จะขายได้ก็ขึ้นอยู่กับความยากง่ายในการเข้าไปบรรทุก ขนาด และแปรผันตามราคายางด้วย (ราคายางดี ไม่มีใครอยากโค่น อุปสงค์มากกว่าอุปทาน) สำหรับขณะนี้อยู่ที่ประมาณไร่ละห้าหมื่นบาท ถ้าไม่ได้ลงมือทำสวนเอง มีเจ้าของสวนพูดกันเล่น ๆ ว่า "ที่ตัดได้เป็นของลูกน้อง ส่วนที่เหลือเป็นของเฒ่าแก่" ครับ




จากคุณ : เมืองสองทะเล

เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 53 10:37:34





------------------------------------------------------





ถ้าไม่มีประสบการณ์อย่าเสี่ยงดีกว่าครับ มีเพื่อนสองคน คนนึงมีสวนยาง

ตอนหน้ายางราคาดีเมื่อสองสามปีก่อน ออกคัมรีได้ แต่ตอนนี้ได้ข่าวว่าคัมรีอาจจะต้องกลายไปเป็นค่าปุ๋ยและค่าใช้จ่ายอื่นๆแล้ว ส่วนคนที่สองเป็นเจ้าของร้านขายปุ่๋ยและอุปกรณ์การเกษตร

เคยเป็นเจ้าของสวนยาง แต่ขายสวนยางเอาเงินมาเปิดร้านขายปุ๋ยและอุปกรณ์การเกษตรเห็นบอกว่ารายได้ ok ไม่เหนื่อยมากกับเรื่องคน เพราะคนงานกรีดยางหาคนดีๆยาก แต่ร้านขายปุ๋ยก็มีอุปสรรคมากเหมือนกันเพราะขึ้นอยู่กับสภาวะอากาศ ฝนตกมากขายปุ๋ยไม่ได้ ราคายางตกคนก็ไม่ค่อยซื้อปุ๋ย




ดังนั้น หาข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจเยอะๆนะครับ




จะเลือกซื้อสวนยางก็พิจารณาแหล่งรับซื้อด้วยนะครับ อย่าลืมคิดค่าขนส่งด้วย




แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 53 11:24:03




จากคุณ : cotarozz

เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 53 11:20:56





------------------------------------------------------





ลองมาตอบ จะครับ ส่วนมาก 60:40 ครับ

ก็ ถ้าไม่ได้ดูเอง อันตรายครับ

ถ้ากรีดเอง นะโอเค แต่ถ้าจ้าง และไม่ได้ดูใกล้ชิดไม่น่าเวริ์ค

โดนลักน้ำยางขาย นี่มันรู้สึกไม่ดีต่อลูกจ้างนะครับ แล้วเรื่องคนกรีด

ถ้ากรีดหน้ายางตาง ก็เซ็งนะครับ

ชุมพร ฝนตกเยอะนะครับ




จากคุณ : เสือพลอย

เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 53 11:30:15





------------------------------------------------------





ถ้าคุณหรือพ่อตาไม่มีความรู้ใดๆเลยเกี่ยวกับสวนยาง ไม่ใช่คนในพื้นที่ ไม่มีญาติหรือคนใกล้ชิดมากๆในพื้นที่ ไม่แนะนำค่ะ เพราะคุณมีโอกาสจะถูกหลอกทั้งจากคนงาน คนดูแลสวนได้แทบทุกเรื่องเพราะความไม่มีประสบการณ์ของคุณ




จากคุณ : เทียนสีรุ้ง

เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 53 11:45:35





------------------------------------------------------






บ้านเราอยู่เบตง เห็นสวนยางที่บ้านตั้งแต่เด็ก แต่ที่บ้านไม่ได้กรีดเอง

จ้างคนงาน 60:40




การดูแลก็เป็นแบบที่เพื่อนๆบอกกัน แต่ถ้าเทียบกับการปลูกผลไม้แล้ว

ปลูกยางดีกว่าเยอะ การดูแลน้อยกว่าพืชอย่างอื่น




แล้วตั้งแต่เริ่มปลูก ทางสงเคราะห์ยางพาราก็ช่วยค่าใช้จ่ายเรื่อง

ต้นยาง ปุ๋ย การถางหญ้า ซึ่งเราว่าดีมากๆ ช่วยค่าใช้จ่ายได้เยอะเลย




อีกอย่างสวนยางแถวบ้าน ขายง่ายแต่หาซื้อยากมากกกกก

ห้าปีที่แล้ว ที่บ้านก็ขายไปแปลงนึง สามสิบกว่าไร่ ได้มาเกือบสิบล้านคะ

ยิ่งขายตอนที่ราคายางดีๆแล้ว พวกเศรษฐีสวนยางซื้อหมด

ที่ขายเพราะว่ายางแก่มากแล้ว ตอนขายก็ได้ราคาไม้ยางต่างหากคะ




แล้วที่เบตงก็มีแต่คนปลูกยาง ที่ดินก็แพงมากด้วย ตอนนี้แทบจะหาซื้อกันไม่ได้แล้ว




จากคุณ : eun hye

เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 53 11:49:10





------------------------------------------------------




ขอบคุณความเห็นทุกๆท่านเลยครับ ข้อมูลดีมากๆน่าจะมีประโยชน์มากสำหรับคนที่อยากเข้ามาลงทุนสวนยางตอนนี้ ส่วนราคาสวนยางมีโฉนดที่ชุมพรก็แพงมากๆ ตกไร่ละ 2แสนยังไม่ค่อยจะมีคนปล่อยเลย




หลังจากเข้ามาอ่านสินธรก็พบกับเรื่องของการลงทุนหุ้นซึ่งจุดประกายผมอีกครั้ง ตอนนี้ก็เริ่มหาหนังสือมาอ่านเพื่อศึกษาอยู่ ต่อไปคงรบกวนเพื่อนๆแนะนำผมบ้างนะครับ




จากคุณ : จขกท. (bouillabaisse)

เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 53 17:45:38


------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น