โดยมติชน เมื่อ 27 ก.ย.2555
เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2555 บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพลังงาน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) เปิดศูนย์ศึกษาและพัฒนาการปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่ทุ่งรังสิต อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของเกษตรกร โดยพลิกสวนส้มร้างให้เป็นแหล่งพลังงานทดแทนที่ยั่งยืน สร้างรายได้และพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกร
ดร.อนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ศูนย์ศึกษาและพัฒนาการปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่ทุ่งรังสิตจะเป็นแหล่งให้ เกษตรกรผู้สนใจจะได้เรียนรู้การปลูกปาล์มน้ำมันอย่างครบวงจร ตั้งแต่การคัดเลือกต้นพันธุ์ การปรับปรุงดินเปรี้ยว รวมถึงวิธีการปลูกปาล์มน้ำมันให้ได้ผลตอบแทนที่ดี และสร้างเครือข่ายระหว่างกลุ่มเกษตรกรเพื่อให้เกิดการรวมกลุ่ม แลกเปลี่ยนประสบการณ์และช่วยเหลือระหว่างกัน
โดยบริษัท บางจากฯ สนับสนุนให้มีการปลูกปาล์มเฉพาะในพื้นที่ดินเปรี้ยว ซึ่งไม่สามารถปลูกข้าวและพืชอื่นๆ ได้ เพื่อใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์ สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร และยังช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียว ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ ที่เป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน ซึ่งผลผลิตจากปาล์ม จะนำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตไบโอดีเซล สนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนในประเทศ สร้างความมั่นคงด้านพลังงาน ช่วยลดการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง ทำให้ประหยัดเงินตราต่างประเทศและลดการขาดดุลการค้า
นอกจากนี้ บริษัท บางจากฯ ยังมีแผนลงทุนสร้างโรงสกัดน้ำมันปาล์มขนาดมาตรฐานเมื่อมีการขยายพื้นที่ปลูกปาล์มในปริมาณที่มากเพียงพอ เพื่อรองรับผลผลิตปาล์มน้ำมันในพื้นที่ ตลอดจนเป็นผู้รับซื้อผลผลิตจากโรงสกัดน้ำมันปาล์มดังกล่าว เพื่อนำมาผลิตเป็นไบโอดีเซล ณ ศูนย์ผลิตไบโอดีเซล อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รองรับการจำหน่ายไบโอดีเซลผ่านสถานีบริการน้ำมันบางจากที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อนึ่ง โครงการ “ศูนย์ศึกษาและพัฒนาการปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่ทุ่งรังสิต” อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก บริษัท บางจากฯ ได้ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพลังงาน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ซึ่งในเบื้องต้น ทำการทดลองปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่ 1,200 ไร่
นายไกรฤทธิ์ นิลคูหา อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานมีนโยบายสนับสนุนการใช้ไบโอดีเซล โดยส่งเสริมให้นำไบโอดีเซล B 100 ผสมในน้ำมันดีเซลในสัดส่วนร้อยละ 3 – 5 เพื่อให้ได้ไบโอดีเซลที่สอดคล้องกับปริมาณการผลิตน้ำมันปาล์มดิบในประเทศ เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศ
นายอนันต์ ลิลา รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า พื้นที่สวนส้มร้างทุ่งรังสิตมีศักยภาพในการปลูกปาล์มน้ำมัน สามารถพัฒนาเป็นแหล่งปลูกปาล์มน้ำมันขนาดใหญ่ในพื้นที่ภาคกลางได้ เนื่องจากมีระบบชลประทานที่ดี และสามารถปลูกได้ในดินเปรี้ยว ซึ่งจากการทดลองปลูกกว่า 6 ปี พบว่าได้ผลผลิตที่ดี เนื่องจากปาล์มน้ำมันเป็นพืชที่ชอบน้ำ จึงช่วยดูดซับน้ำในฤดูน้ำหลาก ป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพมหานครได้อีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้การสนับสนุนด้านวิชาการ คัดเลือกและจัดหาพันธุ์ปาล์ม ตลอดจนให้ความรู้ในการจัดการสวนปาล์มแก่เกษตรกรในโครงการนี้
นายมณฑล สระทองน้อย ผู้อำนวยการสำนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) กล่าวว่า ธ.ก.ส. ให้บริษัท บางจากฯ เช่าพื้นที่ประมาณ 1,200 ไร่ เพื่อจัดตั้งเป็นศูนย์ศึกษาและพัฒนาสวนส้มร้างทุ่งรังสิตเพื่อปลูกปาล์มน้ำมัน และพร้อมให้การสนับสนุนสินเชื่อเพื่อปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรและช่วยแก้ปัญหาด้านภาระหนี้สินที่มีอยู่กับธกส.
Read more ...
เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2555 บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพลังงาน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) เปิดศูนย์ศึกษาและพัฒนาการปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่ทุ่งรังสิต อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของเกษตรกร โดยพลิกสวนส้มร้างให้เป็นแหล่งพลังงานทดแทนที่ยั่งยืน สร้างรายได้และพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกร
ดร.อนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ศูนย์ศึกษาและพัฒนาการปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่ทุ่งรังสิตจะเป็นแหล่งให้ เกษตรกรผู้สนใจจะได้เรียนรู้การปลูกปาล์มน้ำมันอย่างครบวงจร ตั้งแต่การคัดเลือกต้นพันธุ์ การปรับปรุงดินเปรี้ยว รวมถึงวิธีการปลูกปาล์มน้ำมันให้ได้ผลตอบแทนที่ดี และสร้างเครือข่ายระหว่างกลุ่มเกษตรกรเพื่อให้เกิดการรวมกลุ่ม แลกเปลี่ยนประสบการณ์และช่วยเหลือระหว่างกัน
โดยบริษัท บางจากฯ สนับสนุนให้มีการปลูกปาล์มเฉพาะในพื้นที่ดินเปรี้ยว ซึ่งไม่สามารถปลูกข้าวและพืชอื่นๆ ได้ เพื่อใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์ สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร และยังช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียว ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ ที่เป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน ซึ่งผลผลิตจากปาล์ม จะนำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตไบโอดีเซล สนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนในประเทศ สร้างความมั่นคงด้านพลังงาน ช่วยลดการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง ทำให้ประหยัดเงินตราต่างประเทศและลดการขาดดุลการค้า
นอกจากนี้ บริษัท บางจากฯ ยังมีแผนลงทุนสร้างโรงสกัดน้ำมันปาล์มขนาดมาตรฐานเมื่อมีการขยายพื้นที่ปลูกปาล์มในปริมาณที่มากเพียงพอ เพื่อรองรับผลผลิตปาล์มน้ำมันในพื้นที่ ตลอดจนเป็นผู้รับซื้อผลผลิตจากโรงสกัดน้ำมันปาล์มดังกล่าว เพื่อนำมาผลิตเป็นไบโอดีเซล ณ ศูนย์ผลิตไบโอดีเซล อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รองรับการจำหน่ายไบโอดีเซลผ่านสถานีบริการน้ำมันบางจากที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อนึ่ง โครงการ “ศูนย์ศึกษาและพัฒนาการปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่ทุ่งรังสิต” อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก บริษัท บางจากฯ ได้ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพลังงาน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ซึ่งในเบื้องต้น ทำการทดลองปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่ 1,200 ไร่
นายไกรฤทธิ์ นิลคูหา อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานมีนโยบายสนับสนุนการใช้ไบโอดีเซล โดยส่งเสริมให้นำไบโอดีเซล B 100 ผสมในน้ำมันดีเซลในสัดส่วนร้อยละ 3 – 5 เพื่อให้ได้ไบโอดีเซลที่สอดคล้องกับปริมาณการผลิตน้ำมันปาล์มดิบในประเทศ เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศ
นายอนันต์ ลิลา รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า พื้นที่สวนส้มร้างทุ่งรังสิตมีศักยภาพในการปลูกปาล์มน้ำมัน สามารถพัฒนาเป็นแหล่งปลูกปาล์มน้ำมันขนาดใหญ่ในพื้นที่ภาคกลางได้ เนื่องจากมีระบบชลประทานที่ดี และสามารถปลูกได้ในดินเปรี้ยว ซึ่งจากการทดลองปลูกกว่า 6 ปี พบว่าได้ผลผลิตที่ดี เนื่องจากปาล์มน้ำมันเป็นพืชที่ชอบน้ำ จึงช่วยดูดซับน้ำในฤดูน้ำหลาก ป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพมหานครได้อีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้การสนับสนุนด้านวิชาการ คัดเลือกและจัดหาพันธุ์ปาล์ม ตลอดจนให้ความรู้ในการจัดการสวนปาล์มแก่เกษตรกรในโครงการนี้
นายมณฑล สระทองน้อย ผู้อำนวยการสำนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) กล่าวว่า ธ.ก.ส. ให้บริษัท บางจากฯ เช่าพื้นที่ประมาณ 1,200 ไร่ เพื่อจัดตั้งเป็นศูนย์ศึกษาและพัฒนาสวนส้มร้างทุ่งรังสิตเพื่อปลูกปาล์มน้ำมัน และพร้อมให้การสนับสนุนสินเชื่อเพื่อปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรและช่วยแก้ปัญหาด้านภาระหนี้สินที่มีอยู่กับธกส.